วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

ส.3 เทศกาลธรรมดา ปี C

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรดา ปี C 2013 มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ทุกคนหรือทุกส่วนในสังคมนั้นเป็นคนที่สำคัญทั้งหมด กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว อวัยวะต่างๆในร่างกายก็เริ่มบ่นว่า กระเพาะอาหาร มือพูดว่า “ดูซิ ฉันจับจอบจับเสียมขุดดินทำไร่ไถนา เกี่ยวข้าว ทำกับข้าว แต่เจ้ากระเพาะอาหารไม่ทำอะไร วันวันได้แต่รอกินอย่างเดียว ไม่ยุติธรรมเลย” เท้าก็เริ่มบ่นบ้าง “เออจริงด้วย ฉันเนี่ยเป็นผู้พาเจ้ากระเพาะอาหารเดินไปเดินมาทั้งวัน พาเดินไปกินข้าว เดินข้ามแม่น้ำไปกินน้ำ ปีนต้นไม้ เจ้ากระเพาะก็ได้แต่กินอย่างเดียว ไม่ยุติธรรมเสียเลย” หัวเริ่มบ่นบ้าง และอวัยวะส่วนอื่นๆ ก็เริ่มบ่นต่อๆกันไป และตกลงกันว่า จะต้องหยุดความไม่ยุติธรรมนี้ให้ได้ ทั้งหมดก็เลยตกลงกันที่จะประท้วงด้วยการหยุดทำงานและหยุดป้อนอาหารให้กับเจ้ากระเพาะจอมขี้เกียจจนกว่า เจ้ากระเพาะจอมขี้เกียจนั้นจะได้รับบทเรียนที่สาสมจากประชากรส่วนต่างๆ ในร่างกาย ตลอดวันทั้งวัน เจ้ากระเพาะก็ไม่ได้กินอะไรเลย ไม่มีน้ำ ไม่มีไวน์หรืออะไรทั้งสิ้น เจ้ากระเพาะก็ได้แต่ร้องจ๊อกๆ ไปทั้งวัน ในขณะที่อวัยวะส่วนอื่นๆ ก็ด่าว่าไป วันที่สองของการประท้องเจ้ากระเพาะ เจ้าหัวก็พูดขึ้นมาว่า เขารู้สึกมึนๆ งงๆ วันที่สาม มือก็รายงานว่า รู้สึกว่าไม่มีกำลังเลย เท้าก็บ่นว่า ไม่มีแม้แต่แรงที่จะยืน แล้วทั้งหมดก็เริ่มรู้แจ้งเห็นจริงว่า พวกเขาได้ให้อาหารแก่เจ้ากระเพาะ แล้วในที่สุดเจ้ากระเพาะก็ย่อยและเปลี่ยนเป็นสารอาหาร พละกำลังให้กับส่วนต่างๆในร่างกาย อวัยวะต่างๆ รู้แจ้งเห็นจริงว่า ถ้าพวกเขาช่วยกันให้อาหารแก่เจ้ากระเพาะ เจ้ากระเพาะก็จะเลี้ยงอวัยวะอื่นๆโดยที่อวัยวะอื่นๆไม่รู้ตัวเลย ดังนั้นอวัยวะทุกส่วนจึงเลิกประท้วงและกลับไปทำงานของตนเองเพื่อส่งอาหารให้กับเจ้ากระเพาะ ความเข้มแข็ง ก็กลับคืนมาและอวัยวะทุกส่วนก็มีความสุข สิ่งที่บทอ่านที่สองในวันนี้บอกเราก็คือ ทุกๆคนในพระศาสนจักร เป็นผู้ที่สนับสนุนซึ่งกันและกัน , แม้จะดูเหมือนว่าบางคนไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ก็มีประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆ น.เปาโล ได้บอกในบทจดหมายของท่านว่า 22ตรงกันข้าม ส่วนที่เราคิดว่าเป็นอวัยวะที่อ่อนแอของร่างกายกลับเป็นอวัยวะที่จำเป็นมากกว่า 23อวัยวะส่วนที่เราคิดว่าไม่มีเกียรติในร่างกาย เรากลับทะนุถนอมด้วยความเคารพเป็นพิเศษ และอวัยวะที่น่าอับอายของเรากลับได้รับการตกแต่งให้งดงามมากกว่าส่วนอื่น 24อวัยวะที่น่าดูอยู่แล้วไม่ต้องการตกแต่งอะไรอีก พระเจ้าทรงประกอบร่างกายขึ้น โดยให้เกียรติแก่อวัยวะที่ไม่มีเกียรติมากกว่าอวัยวะอื่น ๆ 25เพื่อร่างกายจะได้ไม่มีการแตกแยกใด ๆ ตรงกันข้าม อวัยวะแต่ละส่วนจะเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน (1 Corinthians 12:22-25). เรารู้ว่า คนยากจนอาจจะอิจฉาคนที่ร่ำรวยกว่า แต่พี่น้องรู้หรือไม่ว่า บางครั้งกลับเป็นคนที่ร่ำรวยที่แอบอิจฉาคนที่ยากจนด้วย ? ทำไมคนร่ำรวยจึงแอบอิจฉาคนยากจน เพราะคนจนจ่ายภาษีน้อยกว่าคนร่ำรวยหรือ?? บางทีเราอาจเคยได้ยินคนที่บ่นเรื่องจ่ายภาษี แต่บางคนยากจนบางคนก็ไม่ต้องจ่ายเลย ก็อาจมี ถ้าคนที่ร่ำรวยคิดว่า คนยากจนหรือคนที่ไม่ต้องจ่ายอะไรเลยนั้นสบาย เราก็ต้องลองเป็นคนยากจนแบบนั้นดูบ้าง มีพระสังฆราชองค์หนึ่ง มีความสามารถพิเศษมากและมีบุคคลที่ท่านสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีคนหนึ่ง จนเรียกได้ว่า ถ้าต้องการทำอะไรให้สำเร็จอย่างดี ให้มอบงานกับชายคนนี้ วันหนึ่งพระสังฆราชก็เรียกชายคนนี้และมอบหมายงานให้ ชายคนนี้ก็ต่อว่าพระสังฆราชว่า “พระคุณเจ้า นี่ผมเป็นคนเดียวที่ทำงานให้ท่านได้หรือครับ? ทำไมงานทุกอย่างจะต้องประดังมาที่ผม ในขณะที่คนอื่นๆ กลับนั่งสบายไม่ต้องทำอะไรเลย? พระสังฆราชผู้ฉลาดปราดเปรื่องก็ตอบว่า “ท่านต้องการให้เราสวดภาวนาขอให้ไม่มีใครใช้งานท่านอีกหรือ???” ชายคนนั้นก็เริ่มเข้าใจ เพราะเขาไม่อยากเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่ไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ หลังจากนั้น เขาก็เลิกบ่นว่าและรู้สึกมีความสุขที่ได้รับมอบหมายงานต่างๆ ให้ เพื่อความดีของส่วนรวม พระวาจาของพระเจ้าในวันนี้ ท้าทายเราให้ปล่อยวางความต้องการส่วนตัวของเราเอง เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น หรือคิดว่า คนอื่นต่ำต้อยด้อยค่ากว่าเรา ไม่มีส่วนใดๆในร่างกายที่ต่ำต้อยด้อยค่ากว่ากัน ในทำนองเดียวกัน ไม่ควรมีใคร ในวัด ในพระศาสนจักรที่จะถูกมองว่า ต่ำต้อยด้อยค่ากว่ากันด้วย พระเจ้าได้มอบให้แต่ละคนแตกต่างกันด้วยพระพรต่างๆ ประทานโอกาสต่างๆให้แตกต่างกัน มีงานแตกต่างกัน มีชีวิตที่แตกต่างกัน สิ่งที่เราควรทำก็คือ จงซื่อสัตย์ต่อพระหรรษทานของพระเจ้า ที่พระองค์ประทานให้กับเราในแต่ละวัน ขอพระเจ้าประทานพระพรแด่พี่น้องทุกท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น